วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

บทนำ SH:ZS

บทนำ

ซู่ววววว......ฟู่วววววว........เสียงไอร้อนได้พวยพุ่งสู่ความมืดเบื้องบนที่หาที่สุดไม่ได้ เอี๊ยดดดดดด.....แคร้งงง...แคร้งงง...ครืดดด......เสียงฟันเฟืองสนิมเกาะเริ่มที่จะหยุดหมุนทีละตัวสองตัว เข็มนาฬิกาอันใหญ่ของโบสถ์ก็เริ่มจะหยุดเดินแล้วเช่นกัน เข็มนาฬิกานั้นได้หยุดเวลาอยู่ที่ “2.39 น. หอนาฬิกานี้ยังคงอยู่คู่กับส่วนหนึ่งของของโบสถ์ที่เหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว ในโบสถ์ที่ผุพังนั้น มีบุรุษผู้หนึ่งผู้ที่สวมชุดนักบวชยุคกลางสีน้ำตาลโทรมๆ(นึกถึงชุดนักบวชในยุคของโรบินฮู๊ด) ได้นั่งคุกเข่าสะอื้นไห้ เบื้องหน้าเขานั้นมีชายคนหนึ่งซึ่งถูกตรึงอยู่กับรั้วเหล็ก ชายชุดนักบวชเอ่ยขึ้นมา อา....ทำไม ทำไม ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด ไฉนลูกจึงต้องมาอยู่ในที่แบบนี้ แล้วเขาก็ร้องไห้ ฮึก...ฟื้ดดดด....(เสียงสูดน้ำมูก) ลูกไม่ไหวแล้ว ลูกไม่อยากเป็นเจอกับไอ้พวกนั้นอีก ไอ้พวกสวะพวกนั้น! เขาพูดเสียงสั่นเครือลูกเริ่มจะคุมพวกมันไว้ไม่อยู่แล้ว มันเริ่มทำตามใจตัวเองบ่อยขึ้น บ่อยขึ้น และก็บ่อยขึ้น จนลูกอยากจะจบภาระหน้าที่นี้แล้ว พูดจบเขาก็ก้มหน้ามองตะแกรงเหล็กเบื้องล่าง หยาดน้ำตาได้เลือนหายไปจากใบหน้าของเขาและเสียงของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป แต่ลูกก็อุตสาห์ทำตามที่ท่านเคยบอกเคยสอนมาตลอดทำไม.....ทำไมถึงไม่เป็นอย่างที่ท่านบอกสักนิด ทำไมมันถึงไม่ยอมปล่อยลูกออกไปจากไอ้นรกนี่ซะที!!!!! น้ำเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธและเขาก็เริ่มคำรามเสียงดัง เสียงนั้นหาใช่เสียงมนุษย์ไม่ เสียงของเขากังวานยิ่งกว่าระฆังเรือนใดในโลก พร้อมกันนั้นนั้นร่างกายของเขาเริ่มบูดเบี้ยวและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เสื้อคลุมเริ่มปริและขาดเป็นทางยาวจนชุดเขานั้นเป็นเพียงแค่เศษผ้า ตามร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยเย็บที่ฉีกขาดจากการขยายร่าง ตามรอยแผลที่เปิดได้เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่เต็มไปด้วยน้ำเหลืองไลมซึมออกมาบ้าง โอ๊ววววววววว ลูกไม่ขอทนอีกแล้ว ลูกจะไม่ทำตามที่ท่านสอนอีกแล้ว มันงี่เง่าเกินไปที่จะเชื่อฟังท่าน เขากัดฟันพูดด้วยความโกรธ แต่ทันใดนั้นร่างกายเขาก็เริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิมพร้อมกับเสื้อผ้าที่ไม่เหลือรอยขาดให้เห็น...ราวกับว่าเรื่องเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ....... เขาได้นั่งลงมองไปที่หน้าของชายผู้ถูกตรึงด้วยความเหนื่อยหอบ ชายผู้ถูกตรึงอยู่กับรั้วได้ขยับปากเหมือนกับจะพูดอะไรบางอย่าง ...... จริงหรือ ลูกสามารถหลุดออกจากที่นี่ได้จริงๆใช่มั้ย ชายผู้ถูกตรึงรั้วพยักหน้าและนิ่งไป ลูกจะทำตามที่ท่านบอก ได้โปรดวางใจเถิด ชายชุดนักบวชได้หันหลังและเดินจากไป สายลมสายหนึ่ง มันเป็นสายลมที่ไม่น่าจะมีในที่แบบนี้ได้พัดเอาผ้าคลุมศีรษะของชายคนนั้นออก ภายใต้ผ้าคลุมนั้นได้เผยให้เห็นรอยเย็บหลายแห่งบนศีรษะของเขา ซ้ำแล้วยังมีรอยแผลไฟไหม้อีก รอยบางรอยอย่างกับว่าพึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้เอง หวอออออออออ..........หวออออออออ....... เสียงไซเรนได้ดังขึ้นไปทั่วบริเวณ มาถึงกันแล้วสินะ ที่นี่ขอต้อนรับ เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่นานท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีจากที่เคยดำทมิฬก็เริ่มสว่างขึ้นและหมอกก็เริ่มจับตัวและหนาขึ้นเรื่อยๆ ชายชุดคลุมได้หายไปแล้ว ขณะที่ซากโบสถ์ที่เคยพังยับกลับกลายเป็นว่าเหมือนมันไม่เคยเป็นเช่นนั้น ณ รั้วเหล็กที่เคยมีชายถูกตรึงด้วยโซ่จำนวนสิบสองเส้นได้กลายเป็นผนังหินอ่อนของโบสถ์ ตรงตำแหน่งที่ชายผู้ถูกตรึงถูกแทนที่ด้วยรูปภาพทูตสวรรค์เจ็ดองค์กำลังต่อสู้กับมารทั้งสิบสองตนในหมู่เมฆสีแดง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น